รถมือสองในประเทศไทย

  • แนะนำ benz มือสอง SUV รุ่นใดน่าใช้งานมากที่สุด

    รถเบนซ์ในแพลตฟอร์มอเนกประสงค์ SUV ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในตลาดรถเมืองไทยมีให้เลือกหลากหลายรุ่น ในราคาเริ่มต้นเพียง 2,000,000 บาท เท่านั้น 

    Mercedes Benz แบรนด์รถยนต์ชื่อก้องโลกที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้รถ ด้วยการออกแบบตัวถังของเบนซ์ที่มุ่งเน้นใช้เทคโนโลยีความปลอดภัยเข้ามาช่วยให้ห้องโดยสารมีความปลอดภัยจากแรงกระแทกมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มรถ SUV ที่มีการดีไซน์พิเศษเพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานในเส้นทางทุรกันดาร ผสานกับการติดตั้งฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกในระดับลัคซูรี่คาร์ที่ถือเป็นจนเด่นของรถเบนซ์ SUV ปัจจุบันรถเบนซ์ SUV ที่ได้รับความสนใจและทำตลาดรถในเมืองไทยมีด้วยกันหลากหลายรุ่น อาทิ รุ่น GLA , รุ่น GLC , รุ่น GLS และรุ่น GLE ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ใช้รถชาวไทยเป็นอย่างมากโดยเฉพาะในตลาดรถยนต์มือสอง รถเบนซ์มือสอง SUV ยังคงเป็นที่ต้องการของตลาดด้วยมีราคาจำหน่ายในรุปแบบรถมือสองที่ไม่สูงมากนักเมื่อนำไปเปรียบเทียบกับราคาจำหน่ายรถใหม่ อีกทั้งฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกภายในยังจัดอยู่ในขั้นสุดทันสมัยรองรับการขับขี่ได้หลายหลายรูปแบบ

    https://chobrod.com/car-mercedes-benz

    Mercedez Benz GLC รุ่น 220d 4Matic Coupe AMG Dynamic

    รถเบนซ์ SUV รุ่นใดน่าใช้งานมากที่สุด 2022

    Mercedez Benz GLC รุ่น 220d 4Matic Coupe AMG Dynamic รถอเนกประสงค์ SUV ครอสโอเวอร์อีกรุ่นหนึ่งจากเบนซ์ที่ได้รับการปรับโฉม Facelift ใหม่ให้มีความสปอร์ตเร้าใจมากยิ่งขึ้น โดยมีมิติตัวถังกว้าง 1,890 มม. ยาว 4,731 มม. สูง 1,600 มม. ระยะฐานล้อ 2,873 มม. เริ่มวางตลาดจำหน่ายในปี 2018 พร้อมทางเลือกรุ่นย่อยจำนวน 1 รุ่น ได้แก่ รุ่น GLC 220d 4Matic Coupe AMG Dynamic ที่ชูจุเด่นด้วยการดีไซน์ภายนอกในรูปแบบสปอร์ต SUV สุดหรู ผสานกับฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกภายในระดับลัคซูรี่คาร์ตอบโจทย์การใช้งานทั้งในรูปแบบรถครอบครัว และรถสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี กอปรกับช่วงล่างที่มีการดีไซน์พิเศษเพื่อให้รถมีความนุ่มนวลมากยิ่งขึ้นเมื่อขับขี่ในเส้นทางทุรกันดาร ในราคาเริ่มต้นประมาณ 4,040,000 บาท

    Mercedez Benz GLC รุ่น 220d 4Matic Coupe AMG Dynamic ได้รับการดีไซน์ภายนอกที่ให้เส้นสายสปอร์ตดุดันตอบโจทย์นักขับที่ชื่นชอบการเดินทางพร้อมฟีเจอร์อำนวยความสะดวกครบครันทั้งจากไฟหน้าแบบ LED High Performance พร้อมระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่กลางวัน DRL แบบ LED Fibre Optic ติดตั้งไฟเบรกดวงที่ 3 และ ไฟท้ายแบบ LED กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวในตัวปรับพับได้ด้วยไฟฟ้าพร้อมฟังก์ชั่นกระจกมองข้างด้านคนขับปรับลดแสงอัตโนมัติ เสริมด้วยการติดตั้งระบบเปิด-ปิดฝาท้ายแบบไฟฟ้าและฟังก์ชั่นเปิด-ปิดฝาท้ายโดยไม่ต้องใช้มือ Hand-free Access อีกทั้งยังได้รับการดีไซน์ช่วงล่างแบบสปอร์ตเพื่อตอบโจทย์การขับขี่ในเส้นทางทุรกันดาร ติดตั้งล้ออัลลอย AMG แบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 19 นิ้ว พร้อมกันชนด้านหน้า-ก้านหลังแบบ AMG Bodystyling

    Mercedez Benz GLC รุ่น 220d 4Matic Coupe AMG Dynamic ได้รับการดีไซน์ห้องโดยสารให้มีขนาดใหญ่เพื่อตอบโจทย์การใช้งานในรูปแบบรถครอบครัว ผสานกับการติดตั้งฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกสุดทันสมัยทั้งจากเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าและคนขับปรับพับได้ด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบบันทึกความจำ Memory Seat ติดตั้งมาตรวัดแสดงผลการขับขี่แบบ Full Digital ขนาด 12.3 นิ้ว ปรับเปลี่ยนได้ 3 รูปแบบ เสริมด้วยการติดตั้งหน้าจอกลาง Center Command ขนาด 10.25 นิ้ว พร้อมระบบมัลติมีเดียแบบ M BUX พร้อมระบบรายงานสภาพจราจร รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto ผสานกับการติดตั้งไฟเพิ่มบรรยากาศภายในห้องโดยสาร Ambient Light ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ถึง 64 สี และพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ

    Mercedez Benz GLC รุ่น 220d 4Matic Coupe AMG Dynamic ได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล รหัส OM 654 Commonrail Turbo Charged Intercooler 4 สูบ 16 วาล์ว ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 194 แรงม้า ที่ 3,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,800 รอบ-นาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด 9G-Tronic ขับเคลบื่อน 4 ล้อ 4 Matic

    รถเบนซ์มือสองรุ่นใดน่าซื้อมากที่สุด

    รถเบนซ์มือสอง GLC Class รุ่น 220d 4Matic Coupe AMG Dynamic โฉม 2018  

    Mercedes Benz GLC Class รุ่น 220d 4Matic Coupe AMG Dynamic รถอเนกประสงค์ SUV ครอสโอเวอร์ที่เริ่มทำตลาดในปี 2018 ถือเป็นรถรุ่นปรับโฉม Facelift ได้รับการดีซ์ภายนอกให้สปอร์ตดุดันมากยิ่งขึ้น เสริมด้วยฟีเจอร์อำนวยความสะดวกภายในที่จัดอยู่ในขั้นลัคซูรี่คาร์ ถูกจัดให้เป็นหนึ่งในรถเซกเมนท์ GLC Class ที่เน้นผลิตรถรุ่นเอส ยู วี เป็นหลัก เสริมด้วยการติดตั้งหลังคาวันรูฟเปิด-ปิด ได้ด้วยไฟฟ้าเพื่อเพิ่มสุนทรียภาพในตลอดทริปการเดินทาง

    Mercedes Benz GLC Class รุ่น 220d 4Matic Coupe AMG Dynamic 

    Mercedes Benz GLC Class รุ่น 220d 4Matic มาพร้อมทางเลือกเครื่องยนต์ 1 รูปแบบ ได้แก่

    • เครื่องยนต์ดีเซล รหัส OM 654 Commonrail Turbo Charged Intercooler 4 สูบ 16 วาล์ว ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 194 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร   

    Mercedes Benz GLC Class รุ่น 220d 4Matic ได้รับการติดตั้งระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด 9G Tronic ที่มีความนุ่มนวลสูงด้วยอัตราการทดเกียร์ที่ต่ำเครื่องยนต์จึงไร้อาการกระตุก ผสานกับการติดตั้งระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ AWD ขับสี่ตลอดเวลาจึงตอบโจทย์การใช้งานในพื้นที่ทุรกันดารในรูปแบบรถครอสโอเวอร์เป็นอย่างมาก ขณะเดียวกันเครื่องยนต์ดีเซล รหัส OM 654 ขนาด 2.0 ลิตร ก็ยังตอบสนองต่ออัตราการเร่งได้อย่างรวดเร็ว พร้อมให้การประหยัดน้ำมันได้จนถึงขีดสุด

    รถเบนซ์มือสอง GLC Class รุ่น 220d 4Matic Coupe AMG Dynamic โฉม 2018 Facelift ราคาเริ่มต้นประมาณ 2,000,000 บาท ถึง 3,000,000 บาท  

    รถเบนซ์มือสอง รุ่น GLA 200 โฉม 2021

    Mercedes Benz รุ่น GLA 200 โฉม 2021 สปอร์ตเอส ยู วี ขนาดเล็กอีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในตลาดรถมือสองเนื่องจากมีราคาที่ไม่สูงมากนัก กอปรกับการเปิดตัวทำตลาดในปี 2021 ที่ผ่านมาจึงจัดได้ว่าเป็นรถเบนซ์ SUV ที่ยังเป็นรถรุ่นใหม่และเพิ่งวางตลาด ฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกภายในก็ถูกติดตั้งมาให้ในชนิดที่เรียกได้ว่าจัดเต็ม ผสานกับการดีไซน์ภายนอกที่มีความสปอร์ตโฉบเฉี่ยวโดนใจผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้นสามารถตอบโจทย์การใช้งานในรูปแบบรถครอบครัวได้เป็นอย่างดี

    Mercedes Benz รุ่น GLA 200 โฉม 2021 มาพร้อมทางเลือกเครื่องยนต์ 1 รูปแบบ ได้แก่

    • เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ ขนาด 1.4 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร 

    Mercedes Benz รุ่น GLA 200 โฉม 2021

    Mercedes Benz รุ่น GLA 200 โฉม 2021 ได้รับการติดตั้งระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด 7G-DCT ที่มีความนุ่มนวลสูง ให้อัตราการทดเกียร์ที่ต่ำ เสริมด้วยเครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ ขนาด 1.4 ลิตร ก็สามารถมอบความประหยัดน้ำมันได้อย่างเหนือชั้นด้วยถูกจัดให้เป็นเครื่องยนต์ในรุ่นรถเอสยูวีขนาดเล็กของเบนซ์ที่สามารถส่งผ่านอัตราการเร่งได้อย่างรวดเร็ว พร้อมสมรรถนะของเครื่องยนต์ที่แข็งแกร่ง

    เบนซ์ มือสอง รุ่น รุ่น GLA 200 โฉม 2021 ราคาเริ่มต้นประมาณ 2,000,000 บาท ถึง 2,700,000 บาท

    สำหรับผู้ที่มีความสนใจรถเบนซ์ มือสอง ตรวจเช็คราคารถเบนซ์มือสอง เปรียบเทียบราคารถเบนซ์ทุกรุ่น ค้นหารถเบนซ์ มือสอง สภาพดี ราคาถูก รถบ้านเจ้าของขายเอง มีความน่าเชื่อถือ เลือกรถเบนซ์มือสองรุ่นที่ตอบสนองการใช้งานของคุณได้อย่างง่ายดายที่ Chobrod.com ตลาดรถยนต์ออนไลน์ชั้นนำที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในตลาดรถเมืองไทย






     


  • แนะนำวีโก้แชมป์มือสอง รุ่นที่น่าสนใจ 2022

    vigo champ กระบะสายพันธุ์แกร่งจากโตโยต้าที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในตลาดรถเมืองไทย ในราคาเริ่มต้นประมาณ 300,000 บาท เท่านั้น

    Vigo Champ กระบะรุ่นเรือธงจากโตโยต้าที่ได้รับการการันตีว่าเป็นรถกระบะอีกรุ่นหนึ่งที่มียอดขายดีที่สุดในตลาดรถเมืองไทย โดยเฉพาะในตลาดรถมือสอง วีโก้แชมป์มือสองยังคงเป็นรถรุ่นที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ด้วยมีราคาจำหน่ายในรูปแบบรถมือสองที่ไม่แพงมากนัก กอปรกับสมรรถนะของเครื่องยนต์ในกระบะรุ่นนี้ที่มีความแข็งแกร่งตอบโจทย์การใช้งานทั้งในรูปแบบรถกระบะสำหรับการบรรทุกสัมภาระ หรือ รถกระบะสำหรับครอบครัวก็ได้อีกเช่นกัน Hilux Vigo Champ มาพร้อมทางเลือกเครื่องยนต์ถึง 3 รูปแบบ ได้แก่ เครื่องยนต์ ขนาด 2.5 ลิตร , 2.7 ลิตร และ 3.0 ลิตร ทั้งนี้โตโยต้า วีโก้แชมป์มือสองมีรุ่นใดน่าใช้งานมากที่สุดและราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ประมาณเท่าไร

    https://chobrod.com/car-toyota-hilux-vigo

    Toyota Hilux Vigo Champ

    แนะนำวีโก้แชมป์รุ่นที่น่าสนใจ 

    Toyota Hilux Vigo Champ Double Cab รุ่น 3.0G 4x4 รถกระบะวีโก้แชมป์ในแพลตฟอร์ม 4 ประตู วางตลาดจำหน่ายในปี 2011 และยังได้รับความสนใจในตลาดรถมือสองเป็นอย่างมากด้วยการใช้งานที่มีความอเนกประสงค์เป็นอย่างมากทั้งจากห้องโดยสารที่มีขนาดใหญ่ติดตั้งเบาะนั่งภายในจำนวน 4 ที่นั่ง จึงสามารถตอบโจทย์การใช้งานในรูปแบบรถครอบครัวได้อย่างง่ายดาย เสริมด้วยการดีไซน์ภายนอกที่มีความสปอร์ตโฉบเฉี่ยวไม่น้อยหน้ารถรุ่นอื่นในไลน์การผลิต Vigo Champ อีกทั้งยังถือเป็นรุ่นท็อปสุดที่มีการติดตั้งระบบขับขี่แบบ 4 ล้อ 4x4 ส่งผลให้สามารถขับขี่ในเส้นทางทุรกันดารได้อย่างง่ายดาย ในราคาเริ่มต้นประมาณ 300,000 บาท ถึง 400,000 บาท

    Toyota Hilux Vigo Champ Double Cab รุ่น 3.0G 4x4 ได้รับการดีไซน์ภายนอกให้มีความดุดัน โดยมีมิติตัวถังยาว 5,135 มม. กว้าง 1,835 มม. สูง 1,860 มม. ระยะฐานล้อ 3,085 มม. พร้อมฟีเจอร์สุดโดดเด่นอีกเป็นจำนวนมากทั้งจากกระจังหน้าขนาดใหญ่สีโครเมียม โคมไฟหน้าแบบฮาโลเจน พร้อมไฟตัดหมอกคู่หน้า ติดตั้งช่องดักอากาศสีดำเข้มพร้อมดิฟฟิวเซอร์บริเวณด้านล่าง กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวในตัวปรับพับได้ด้วยไฟฟ้า ด้านหลังมาพร้อมไฟท้ายแบบ LED ติดตั้งกันชนหลังสีโครเมียม เสริมด้วยการติดตั้งเสาอากาศแบบพับเก็บได้ ส่วนช่วงล่างได้รับการติดตั้งล้ออัลลอย ขนาด 17 นิ้ว

    Toyota Hilux Vigo Champ Double Cab รุ่น 3.0G 4x4 ได้รับการดีไซน์ภายในห้องโดยสารให้มีขนาดที่กว้างขวางเพื่อรองรับการใช้งานในรูปแบบรถครอบครัว ติดตั้งฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกครบครันทั้งจาก เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้าได้ 6 ทิศทาง หน้าจอแสดงผลการขับขี่แบบดิจิตอลพร้อมมาตรวัดเรืองแสงแบบ Optitron พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบ 3 ก้าน พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control กล้องมองภาพขณะถอยหลัง มอบความบันเทิงผ่านชุดเครื่องเสียงแบบ 2 Din พร้อมหน้าจอระบบสัมผัส ขนาด 6.1 นิ้ว รองรับการเล่น CD/MP3 พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB และ AUX 

    ภายใน Toyota Hilux Vigo Champ

    Toyota Hilux Vigo Champ Double Cab รุ่น 3.0G 4x4 ได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล รหัส 1KD-FTV 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว VN Turbo Intercooler ขนาด 3.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 1,400-3,200 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ขับเคลื่อน 4 ล้อ 4WD ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเพลิดเพลินกับการขับขี่ในเส้นทางทุรกันดารได้อย่างง่ายดาย ผสานกับเครื่องยนต์ VN Turbo ขนาด 3.0 ลิตร ที่สามารถตอบสนองต่ออัตราการเร่งได้อย่างรวดเร็ว

    เครื่องยนต์ Vigo Champ 

    • เครื่องยนต์ดีเซล รหัส 1KD-FTV D4D Commonrail VN TURBO INTERCOOLER ขนาด 3.0 ลิตร 

    • เครื่องยนต์ดีเซล รหัส 2KD-FTV D4D Commonrail VN TURBO INTERCOOLER ขนาด 2.5 ลิตร

    • เครื่องยนต์ดีเซล รหัส 2KD-FTV TURBO INTERCOOLER ขนาด 2.5 ลิตร

    • เครื่องยนต์ดีเซล รหัส 2KD-FTV D4D Commonrail Turbo ขนาด 2.5 ลิตร 

    • เครื่องยนต์เบนซิน รหัส 2TR-FE VVT-I ขนาด 2.7 ลิตร 

    Toyota Hilux Vigo Champ รุ่น 2.5 E

    Toyota Hilux Vigo Champ รุ่น 2.5 E ถูกจัดอยู่ในเจนเนอเรชั่นที่ 6 ของรถในตระกูล Toyota Hilux วางจำหน่ายในประเทศไทยราวปี 2011-2015 ภายใต้การดีไซน์ตัวถังในรูปแบบกระบะ Smart Cab ที่เปี่ยมไปด้วยความสปอร์ตดุดัน ติดตั้งฟีเจอร์เสริมที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้ง่ายมากยิ่งขึ้นทั้งจากโคมไฟหน้าแบบฮาโลเจน กระจังหน้าแบบโครเมียมพร้อมช่องดักอากาศบริเวณด้านล่าง ติดตั้งเครื่องเสียงวิทยุ CD/MP3 พร้อมช่องเชื่อมต่อ AUX และฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกภายในสุดครบครัน

    Toyota Hilux Vigo Champ รุ่น 2.5 E ได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์ 1 รูปแบบ ได้แก่

    • เครื่องยนต์ดีโฟว์ดี คอมมอนเรล ไดเร็คอินเจคชั่น DOHC 16 วาล์ว ขนาด 2.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 144 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที  แรงบิดสูงสุด 343 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 – 2,800 รอบ/นาที 

    Toyota Hilux Vigo Champ รุ่น 2.5 E มาพร้อมกับพระบบส่งกำลังแบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ที่มีความแม่นยำสูง อีกทั้งเครื่องยนต์คอมมอนเรล ขนาด 2.5 ลิตร ยังสามารถตอบสนองต่ออัตราการเร่งได้อย่างรวดเร็ว ด้วยเครื่องยนต์มีสมรรถนะแข็งแกร่งรองรับการขับขี่ในระยะทางไกลได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังให้การประหยัดน้ำมันได้อย่างดีเยี่ยม เสริมด้วยช่วงล่าง Toyota Hilux Vigo Champ รุ่น 2.5 E ที่มีความนุ่มนวลสูงจึงช่วยลดแรงกระแทกที่จะส่งไปยังห้องโดยสารได้ดี

    วีโก้แชมป์มือสอง รุ่น 2.5 E ปี 2011-2015 ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 300,000 บาท ถึง 400,000 บาท

    Toyota Hilux Vigo Champ รุ่น 2.5 J Extra Cab

    Toyota Hilux Vigo Champ รุ่น 2.5 J Extra Cab กระบะสมาร์ตแค็บอีกรุ่นหนึ่งจากโตโยต้าที่สามารถครองใจผู้ใช้รถมือสองได้เป็นอย่างมาก เริ่มวางตลาดจำหน่ายในปี 2011-2015 จัดอยู่ในเจนเนอเรชั่นที่ 6 ของรถกระบะโตโยต้า ไฮลักซ์ ที่ได้รับการดีไซน์โครงสร้างตัวถังให้มีความแข็งแกร่งพร้อมกระบะหลังที่มีการขยายพิเศษเพื่อตอบโจทย์การใช้งานบรรทุกสัมภาระ กอปรกับฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกภายในที่จัดอยู่ในขั้นพรีเมียมพร้อมทั้งห้องโดยสารที่มีขนาดใหญ่

    เครื่องยนต์ Toyota Hilux Vigo Champ

    Toyota Hilux Vigo Champ รุ่น 2.5 J Extra Cab มาพร้อมทางเลือกเครื่องยนต์ 1 รุ่น ได้แก่

    • เครื่องยนต์ดีเซล รหัส 2KD-FTV 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ ขนาด 2.5 ลิตร

    Toyota Hilux Vigo Champ รุ่น 2.5 J Extra Cab ได้รับการติดตั้งระบบส่งกำลังแบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ที่สามารถตอบสนองต่อการใช้งานได้อย่างรวดเร็ว ด้วยมีอัตราการทดเกียร์ที่ต่ำจึงไร้ปัญหาเครื่องยนต์กระตุกขณะทำการเปลี่ยนเครื่องยนต์ อีกทั้งยังสามารถที่จะประหยัดน้ำมันได้อย่างดีเยี่ยมอีกด้วยผ่านเครื่องยนต์ดีเซล รหัส 2KD-FTV ขนาด 2.5 ลิตร ที่มีสมรรถนะสูงรองรับการขับขี่ในเส้นทางไกลและเร่งทำความเร็วได้อย่างง่ายดายอีกด้วย

    วีโก้แชมป์มือสอง รุ่น 2.5 J Extra Cab ปี 2011-2015 ราคาเริ่มต้นประมาณ 300,000 บาท ถึง 380,000 บาท

    สำหรับผู้ที่มีความสนใจวีโก้แชมป์ รถกระบะที่มาพร้อมทางเลือกทั้งในรูปแบบ Single Cab , Smart Cab และ Double Cab 4 ประตู ค้นหารถวีโก้แชมป์มือสอง สภาพดี ราคาถูก รถบ้านเจ้าของขายเอง มีความน่าเชื่อถือ เลือกรถวีโก้แชมป์มือสองที่ตอบสนองต่อการใช้งานของคุณได้ง่ายๆเพียงคลิ๊ก Chobrod.com ตลาดรถยนต์ออนไลน์ชั้นนำที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในตลาดรถเมืองไทย 





     


  • รถฟอร์จูนเนอร์มือสอง รุ่นใดน่าใช้งานมากที่สุด 2022

    ฟอร์จูนเนอร์ รถอเนกประสงค์ ขนาด 7 ที่นั่ง ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงในตลาดรถเมืองไทย ในราคาเริ่มต้นสบายกระเป๋าเพียง 300,000 บาท เท่านั้น

    Toyota Fortuner รถอเนกประสงค์ PPV รุ่นเรือธงจากโตโยต้าที่ได้รับการปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ให้ดูสปอร์ตโฉบเฉี่ยวโดนใจผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์เริ่มทำตลาดในประเทศไทยเป็นครั้งแรกในปี 2004 โดยใช้แพลตฟอร์มตัวถังที่ปรับโฉมมาจาก Toyota Hilux Vigo ถือเป็นรถยนต์ PPV อีกรุ่นหนึ่งที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในตลาดรถเมืองไทยด้วยการใช้งานที่สามารถตอบโจทย์ได้ทั้งรถครอบครัว และรถขนส่งสาธารณะ ปัจจุบันโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ได้รับการปรับโฉมมาแล้วกว่า 2 เจนเนอร์เรชั่น โดยโฉมล่าสุดมาพร้อมทางเลือกรุ่นย่อยทั้งในรุ่นมาตรฐาน และรุ่นพิเศษ Toyota Fortuner Legender มีราคาจำหน่ายเริ่มต้นประมาณ 1,300,000 บาท ถึง 1,800,000 บาท เสริมด้วยระบบขับเคลื่อนที่มีให้เลือกทั้งรูปแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และ ขับเคลื่อน 4 ล้อ 4WD สำหรับตลาดรถมือสองเมืองไทยรถฟอร์จูนเนอร์มือสองยังคงเป็นที่ต้องการของผู้ใช้รถมือสองเป็นอย่างมากด้วยมีให้เลือกหลากหลายรุ่นพร้อมห้องโดยสารที่มีขนาดใหญ่นั่นเอง

    https://chobrod.com/car-toyota-fortuner

    Toyota Fortuner 2022

    อัพเดทราคาจำหน่าย Toyota Fortuner 2022

    1.Toyota Fortuner 2022 รุ่นมาตรฐาน

    • Toyota Fortuner รุ่น 2.4G ราคา 1,319,000 บาท

    • Toyota Fortuner รุ่น 2.4V ราคา 1,424,000 บาท

    • Toyota Fortuner รุ่น 2.4V 4WD ราคา 1,494,000 บาท

    2.Toyota Fortuner 2022รุ่น Legender 

    • Toyota Fortuner รุ่น 2.4 Legender ราคา 1,564,000 บาท

    • Toyota Fortuner รุ่น 2.4 Legender 4WD ราคา 1,634,000 บาท

    • Toyota Fortuner รุ่น 2.8 Legender ราคา 1,769,000 บาท

    • Toyota Fortuner รุ่น 2.8 Legender 4WD ราคา 1,839,000 บาท

    รีวิว Toyota Fortuner รุ่นที่น่าใช้งาน 2022 

    Toyota Fortuner รถอเนกประสงค์ PPV ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในตลาดรถเมืองไทยด้วยเป็นรถที่มีการดีไซน์ห้องโดยสารให้มีขนาดใหญ่ตอบโจทย์การใช้งานในรูปแบบรถครอบครัว เสริมด้วยฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกภายในแบบจัดเต็มอันเป็นคุณสมบัติเด่นของรถในตระกูลนี้ โดยเฉพาะในรุ่น Toyota Fortuner รุ่น 2.4V 4WD ซึ่งถือเป็นรุ่นท็อปสุดในไลน์การผลิตฟอร์จูนเนอร์รุ่น Standard ที่ได้รับการออกแบบภายนอกให้มีความสปอร์ตได้อย่างน่าประทับใจ ผสานกับการดีไซน์ภายในห้องโดยสารที่เหนือชั้นและระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ 4WD ที่นับเป็นจุดเด่นของรถรุ่นนี้ ในราคาเริ่มต้นเพียง 1,494,000 บาท 

    ภายนอก Toyota Fortuner 2022

    Toyota Fortuner รุ่น 2.4V 4WD รถ PPV ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในไลน์การผลิตฟอร์จูนเนอร์อีกรุ่นหนึ่ง โดยได้รับการดีไซน์ช่วงล่างแบบ 4 Link ที่ช่วยดูดซับแรงกระแทกที่จะส่งไปยังห้องโดยสารเพิ่มความนุ่มนวลได้เป็นอย่างดีในทุกพื้นผิวการขับขี่ เสริมด้วยการติดตั้งกระจังหน้าขนาดใหญ่สีดำเข้มพร้อมช่องดักอากาศบริเวณด้านล่าง โคมไฟหน้าแบบ Bi-Beam LED เปิด-ปิด อัตโนมัติ พร้อมระบบ Follow Me Home ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่กลางวัน DRL แบบ LED ไฟท้ายแบบ LED Light Guide กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวในตัวปรับพับได้ด้วยไฟฟ้า ติดตั้งราวหลังคาสำหรับบรรทุกสัมภาระเพิ่มเติม เสริมด้วยการติดตั้งเสาอากาศแบบครีบฉลาม สปอยเลอร์หลังทรงสปอร์ตพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 ส่วนช่วงล่างติดตั้งล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว

    Toyota Fortuner รุ่น 2.4V 4WD ภายในได้รับการดีไซน์ห้องโดยสารให้มีขนาดใหญ่เพื่อตอบโจทย์ในการใช้งานรถครอบครัว ตกแต่งภายในด้วยโทนสีดำ เบาะนั่งคนขับสามารถปรับระดับได้ด้วยไฟฟ้า ติดตั้งเบาะนั่งภายในจำนวน 7 ที่นั่ง กระจกรอบคันตกแต่งด้วยสีดำ ติดตั้งกล้องมองภาพรอบทิศทาง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบ 3 ก้าน พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและแป้นเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ Paddle Shift หน้าจอแสดงผลการขับขี่แบบ MID พร้อมมาตรวัดแบบเรืองแสง กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงสะท้อน มอบความบันเทิงผ่านระบบอินโฟเทนเมนท์บนหน้าจอระบบสัมผัส ขนาด 8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB และ AUX และระบบ T-Connect

    ภายใน Toyota Fortuner 2022

    Toyota Fortuner รุ่น 2.4V 4WD ได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล รหัส 2 GD-FTV 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว VN เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ ขนาด 2.4 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Sequential Shift รองรับน้ำมันไบโอดีเซล B20 

    เครื่องยนต์ Toyota Fortuner 

    • เครื่องยนต์ 2GD-FTV ขนาด 2.4 ลิตร VN-Turbo  

    • เครื่องยนต์ 2KD-FTV VNT ขนาด 2.5 ลิตร VN-Turbo

    • เครื่องยนต์ 2TR-FE VVT-I ขนาด 2.7 ลิตร

    • เครื่องยนต์ 1GD ขนาด 2.8 ลิตร VN-Turbo

    • เครื่องยนต์ 5L-E ขนาด 3.0 ลิตร 

    • เครื่องยนต์ 1GR-FE 6 สูบ ตัว V ขนาด 4.0 ลิตร

    Toyota Fortuner รุ่น 3.0 V 4WD

    Toyota Fortuner รุ่น 3.0 V 4WD รถฟอร์จูนเนอร์รุ่นปรับโฉม MY 2011-2015 ถือเป็นรถฟอร์จูนเนอร์ในเจนเนอเรชั่นที่ 1 ในไลน์การผลิตฟอร์จูนเอนร์และจัดเป็นรุ่นท็อปสุดของโฉมนี้ โดยได้รับการปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ภายนอกให้มีความสปอร์ตโฉบเฉี่ยวดูสะดุดตาถูกใจผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น ผสานกับการดีไซน์ห้องโดยสารให้มีขนาดใหญ่มากยิ่งขึ้นพร้อมทั้งการติดตั้งเบาะนั่งภายในจำนวน 3 แถว 7 ที่นั่ง และฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยอีกเป็นจำนวนมาก

    Toyota Fortuner รุ่น 3.0 V 4WD มาพร้อมทางเลือกเครื่องยนต์ 1 รูปแบบ ได้แก่

    • เครื่องยนต์ดีเซล รหัส 1 KD-FTV คอมมอนเรล Direct Injection 16 วาล์ว VN Turbo Intercooler ขนาด 3.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 343 นิวตัน-เมตร ที่ 1,400-3,200 รอบ/นาที

    Toyota Fortuner รุ่น 3.0 V 4WD ได้รับการติดตั้งระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ที่มีอัตราช่วงการทดเกียร์ที่ต่ำ สามารถส่งผ่านอัตราการเร่งได้อย่างรวดเร็ว เครื่องยนต์จึงไร้ปัญหาอาการกระตุกในระหว่างเร่งเครื่องเพื่อเปลี่ยนระดับความเร็ว ขณะเดียวกันเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 3.0 ลิตร ก็ตอบสนองต่ออัตราการเร่งได้เป็นอย่างดี Toyota Fortuner รุ่น 3.0 V 4WD ได้รับการติดตั้งระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ 4WD

    ฟอร์จูนเนอร์มือสอง รุ่น 3.0 V 4WD โฉม 2011-2015 ราคาเริ่มต้นประมาณ 300,000 บาท ถึง 700,000 บาท

    Toyota Fortuner รุ่น 2.4 V

    Toyota Fortuner รุ่น 2.4 V อเนกประสงค์ PPV รุ่นใหม่ล่าสุดจากโตโยต้าที่เริ่มทำตลาดในปี 2015-ปัจจุบัน จัดอยู่ในเจนเนอเรชั่นที่ 2 ของไลน์การผลิตฟอร์จูนเนอร์ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในตลาดรถมือสองเมืองไทยด้วยทางเลือกระบบขับ้คลื่อนที่มีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อนแบบ 2 ล้อ 2WD และระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ 4WD อีกทั้งทางเลือกรุ่นย่อยจำนวน 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น 2.4 G , รุ่น 2.4 V และรุ่น 2.4 V 4 WD ซึ่งถือเป็นรุ่นท็อปสุดในไลน์การผลิตฟอร์จูนเนอร์โฉมนี้

    • เครื่องยนต์ดีเซล รหัส 2 GD-FTV 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว VN เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ ขนาด 2.4 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร 

    Toyota Fortuner รุ่น 2.4 V ได้รับการติดตั้งระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Sequential Shift และแป้นเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ Paddle Shift ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่ปรับระดับเกียร์ได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังได้รับการติดตั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่ควบคุมความเร็วรถได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.4 ลิตร ยังสามารถตอบสนองต่ออัตราการเร่งได้อย่างเร็วทันใจอีกด้วย

    ฟอร์จูนเนอร์มือสอง รุ่น 2.4 V เจนเนอเรชั่นที่ 2 ราคาเริ่มต้นประมาณ 800,000 บาท ถึง 1,000,000 บาท

    สำหรับผู้ที่มีความสนใจ toyota fortuner มือสอง รถอเนกประสงค์ PPV ที่มียอดจำหน่ายสูงสุดตลอดกาล พร้อมห้องโดยสารขนาดใหญ่อัดแน่นไปด้วยฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกครบครัน ค้นหารถฟอร์จูนเนอร์มือสองเจ้าของขายเอง รถใหม่ สภาพดี ราคาถูก เปรียบเทียบราคารถฟอร์จูนเนอร์ ตรวจเช็คราคารถฟอร์จูนเนอร์ทุกรุ่น เลือก fortuner มือสองที่ตอบสนองต่อการใช้งานของคุณได้ที่ Chobtod.com ตลาเรถยนต์ออนไลน์ชั้นนำที่มียอดผู้เข้าชมมากที่สุดในประเทศไทย 

     







     

     


  • แนะนำรถตู้มือสองราคาถูก รถบ้าน รุ่นใดน่าสนใจที่สุด 2022

    รถตู้มือสองที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานของผู้ขับขี่ทั้งในรูปแบบรถครอบครัวและรถรับส่งพนักงาน ในราคาเริ่มต้นประมาณ 500,000 บาท เท่านั้น 

    ปัจจุบันรถตู้ในตลาดรถเมืองไทยถูกผลิตออกมาจำหน่ายเป็นจำนวนมาก ด้วยคุณสมบัติของรถในตระกูลนี้ที่ตอบโจทย์การใช้งานทั้งในรูปแบบรถตู้เพื่อการขนส่งสาธารณะ รถตู้สำหรับผู้บริหาร รถตู้ครอบครัว และรถตู้ที่ใช้งานในบริษัทเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ขับเคลื่อนให้ยอดการจำหน่ายรถตู้ในประเทศไทยยังคงสูงอยู่เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในตลาดรถตู้มือสองที่มีรถตู้ในหลากหลายรุ่นให้ผู้สนใจได้เลือกใช้งานกันทั้งจาก Toyota Hiace , Toyota Commuter , Toyota Majesty , Nissan Urvan , Hyundai Grand Starex , Toyota Vellfire เป็นต้น พร้อมราคาจำหน่ายรถตู้มือสองที่ไม่สูงมากนักหากนำมาเปรียบเทียบกับราคาจำหน่ายรถตู้มือหนึ่งที่มีราคาไม่ต่ำกว่า 900,000 บาท พร้อมสมรรถนะในการขับขี่ที่ไม่ได้มีความแตกต่างจากรถมือหนึ่งแต่อย่างใด สำหรับตลาดรถมือไทยมีรถตู้มือสองรุ่นใดบ้างที่น่าใช้งานในปี 2022 และมีฟีเจอร์อะไรที่โดดเด่นบ้าง

    1.Toyota Hiace รุ่น 3.0 D4D รุ่น MY 2014     

    Toyota Hiace รุ่น 3.0 D4D MY 2014 รถตู้อเนกประสงค์ในกลุ่ม Urvan ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในตลาดรถมือสองเริ่มเปิดตัวทำตลาดในปี 2014 สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้หลายรูปแบบทั้งในรุ่นตู้ทึบ หรือ รุ่นโดยสารที่ติดตั้งเบาะนั่งภายในมาจำนวน 13 ที่นั่ง สามารถรองรับการใช้งานในรูปแบบรถเพื่อการขนส่งสาธารณะได้อย่างง่ายดาย โดยได้รับการติดตั้งกระจังหน้าแบบโครเมียม ไฟหน้าแบบฮาโลเจน กันชนหน้าและกันชนหลังสีดำเข้ม มือจับประตุภายนอกสีดำ ภายในมาพร้อมกับห้องดดยสารขนาดใหญ่ ติดตั้งเครื่องเสียงแบบ 2 Din รองรับการเล่นวิทยุ CD/MP3 หน้าจอแสดงผลการขับขี่แบบอนาล็อก พวงมาลัยแร็ค แอนด์ พิเนียน ระบบปรับอากาศแบบดิจิตอล บัน่งด้านหลังสามารถปรับพับเพื่อเพิ่มพื้นที่จัดเก็บสัมภาระ Toyota Hiace รุ่น 3.0 D4D ได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล รหัส 1KD-FTV (I/C) 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว เทอร์โบอินเตอร์คูลเลอร์ ขนาด 3.0 ลิตร ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด  

    Toyota Hiace

    ราคารถตู้มือสอง Toyota Hiace รุ่น 3.0 D4D MY 2014 เริ่มต้นที่ประมาณ 500,000 บาท ถึง 600,000 บาท

    2.Toyota Commuter รุ่น 2.8 MY 2019

    Toyota Commuter รุ่น 2.8 MY 2019 รถตู้ที่ได้รับการปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ใหม่ให้มีความสปอร์ตโฉบเฉี่ยวโดนใจผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้นเริ่มจำหน่ายในตลาดรถเมืองไทยเมื่อปี 2019 ชูจุดเด่นด้วยการดีไซน์ภายในแบบ Semi-Bonnet ที่จัดให้ห้องโดยสารถอยร่นไปบริเวณด้านหลังเล็กน้อยเพื่อปกป้องผู้ขับขี่เมื่อรถเกิดเฉี่ยวชนบริเวณด้านหน้าจะช่วยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้าปลอดภัยมากยิ่งขึ้น กระจังหน้าแบบโครเมียม กันชนด้านหน้าและหลังสีเดียวกันกับตัวรถ ไฟหน้ามัลติรีเฟลกเตอร์ฮาโลเจน ไฟตัดหมอกด้านหน้า กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวในตัว เสริมด้วยฟังก์ชั่นระบบไล่ฝ้ากระจกบังลมหลังและไฟเบรกดวงที่ 3  ช่วงล่างได้รับการติดตั้งล้อกระทะขนาด 16 นิ้ว ภายในมาพร้อมกับห้องโดยสารขนาดใหญ่ ตกแต่งด้วยโทนสีดำ ติดตั้งเบาะนั่งภายในจำนวน 15 ที่นั่ง พวงมาลัยหุ้มยูรีเทนแบบ 4 ก้าน ปรับได้ 4 ทิศทาง หน้าจอแสดงผลการขับขี่แบบ MID เสริมด้วยฟังก์ชั่น Eco เพื่อการขับขี่อย่างประหยัดน้ำมัน ช่องชาร์จไฟ 12 V จำนวน 2 ตำแหน่ง ระบบปรับอากาศแบบธรรมดาพร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลรหัส 1GD-FTV วีเอ็น-เทอร์โบ แบบ 4 สูบ ขนาด 2.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 420 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด

    Toyota Commuter

    ราคารถตู้มือสอง Toyota Commuter รุ่น 2.8 MY 2019 เริ่มต้นประมาณ 700,000 บาท ถึง 1,000,000 บาท

    3.Toyota Majesty รุ่น 2.8 Grande 2019

    Toyota Majesty รุ่น 2.8 Grande รถตู้อเนกประสงค์ในตระกูล MPV ที่เปิดตัวทำตลาดในไทยเมื่อปี 2019 อีกรุ่นหนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในตลาดรถมือสองเมืองไทยด้วยการดีไซน์ภายนอกที่ให้ความสปอร์ตได้อย่างลงตัว ผสานกับฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกภายในระดับลัคซูรี่คาร์ พร้อมทั้งฟีเจอร์เด่นๆอีกเป็นจำนวนมากทั้งจากไฟหน้าแบบ LED พร้อมระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ และปรับระดับสูงต่ำอัตโนมัติ พร้อมฟังก์ชั่นปรับองศาไฟหน้าตามการหักเลี้ยวของพวงมาลัย ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่กลางวัน DRL แบบ LED พร้อมไฟตัดหมอกคู่หน้า กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวในตัวปรับพับได้ด้วยไฟฟ้า ภายในห้องโดยสารขนาดใหญ่ ตกแต่งด้วยสีทูโทน ติดตั้งเบาะนั่งจำนวน 11 ที่นั่ง พร้อมฟังก์ชั่นเบาะนวดผ่อนคลายแบบ captain Seat เบาะนั่งคนขับปรับระดับได้ด้วยไฟฟ้า กระจกมองหลังแบบปรัดลดแสงสะท้อน หน้าจอแสดงผลการขับขี่แบบ MID ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติพร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง โดยได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล รหัส 1GD-FTV VN-Turbo ขนาด 2.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 420 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Sequential Shift

    รถตู้โตโยต้ามือสอง Toyota Majesty รุ่น 2.8 Grande 2019 เริ่มต้นที่ประมาณ 2,000,000 บาท ถึง 2,300,000 บาท

    Toyota Majesty

    4.Toyota Vellfire รุ่น 2.4V 2012

    Toyota Vellfire รุ่น 2.4V รถตู้อเนกประสงค์ในรูปแบบรถ MPV สุดพรีเมียมอีกรุ่นหนึ่งจากโตโยต้าที่เริ่มวางตลาดจำหน่ายในปี 2008-2012 ชูจุเด่นด้วยการดีไซน์ภายนอกให้สปอร์ตโดนใจผู้ใช้งานทั้งจากไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ HID พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่กลางวัน DRL แบบ LED และไฟตัดหมอกคู่หน้า กระจกมองข้างปรับพับได้ด้วยไฟฟ้า กระจังหน้าแบบโครเมียม ประตูข้างแบบไฟฟ้า และประตูปิดห้องสัมภาระด้านท้ายแบบไฟฟ้า ภายในมาพร้อมห้องโดยสารขนาดใหญ่ เบาะนั่งคู่หน้าและแถวที่ 2 แบบไฟฟ้า กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงสะท้อน กล้องมองภาพด้านหลัง หลังคาซันรูฟเปิด-ปิดได้ด้วยไฟฟ้า หน้าอินโฟเทนเมนท์ระบบสัมผัสรองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน รหัส 2AZ-FE VVT-I พร้อมระบบวาล์วแปรผัน ขนาด 2.4 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 170 แรงม้า ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT 7 สปีด 

    Toyota Vellfire

    รถตู้โตโยต้ามือสอง รุ่น Vellfire 2.4V ปี 2008-2012 ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 800,000 บาท ถึง 1,000,000 บาท

    5.Nissan Urvan รุ่น 2.5 NV 350 MY 2019 

    Nissan Urvan รุ่น 2.5 NV 350 รถตู้มือสองจากค่ายนิสสันที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในตลาดรถเมืองไทยเริ่มวางตลาดจำหน่ายในปี 2019 ถือเป็นรุ่นปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ให้มีความโฉบเฉี่ยวสะดุดตาถูกใจผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้นทั้งจากการติดตั้งฟีเจอร์เสริมที่ช่วยให้ผู้ขับขี่ควบคุมรถได้ง่ายมากยิ่งขึ้น อาทิ ไฟหน้าแบบ LED โปรเจคเตอร์รวมไปถึงระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติพร้อม LED Signature Lights กระจกมองข้างแบบโครเมียมปรับและพับได้ด้วยไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยวในตัว กันชนหน้าหลังดีไซน์สปอร์ตสีเดียวกันกับตัวรถ มือจับประตูด้านนอกสีดำ กระจกส่องทางด้านหลัง คิ้วขอบป้ายทะเบียนแบบโครเมียม ติดตั้งบังโคลนในทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ภายในมาพร้อมห้องดดยสารขนาดใหญ่ตกแต่งด้วยโทนสีดำ กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงสะท้อน เบาะนั่งภายในหุ้มด้วยผ้าสีเทา เบาะนั่งด้านคนขับสามารถปรับเอนและเลื่อนได้ ระบบปรับอากาศแบบดิจิตอล พวงมาลัยแบบ 3 ก้านหุ้มด้วยโพลียูรีเทนสามารถปรับระดับได้ กระจกไฟฟ้าเลื่อนขึ้นลงอัตโนมัติพร้อมระบบป้องกันการหนีบด้านคนขับ หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ MID ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล รหัส YD25DDTi 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว ขนาด 2.5 ลิตร ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด

    Nissan Urvan

    รถตู้มือสอง Nissan Urvan รุ่น 2.5 NV 350 MY 2019 ราคาเริ่มต้นประมาณ 600,000 บาท ถึง 700,000 บาท

    6.Hyundai Grand Starex รุ่น 2.5 Deluxe 2019

    Hyundai Grand Starex รุ่น 2.5 Deluxe รถตู้ในกลุ่ม MPV สุดพรีเมียมที่ได้รับการติดตั้งเทคโนโลยีสุดทันสมัยเพื่อตอบโจทย์การใช้งานมอบความผ่อนคลายให้กับผู้โดยสารได้อย่างดีเยี่ยม ทำตลาดรุ่นปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ในปี 2019 ชูจุดเด่นด้วยประตูไฟฟ้าเลื่อนอัตโนมัติทั้ง 2 บาน สำหรับผู้โดยสารในตอนหลังช่วยให้ผู้โดยสารสามารถขึ้น-ลงรถได้อย่างสะดวกสบาย เสริมด้วยระบบความปลอดภัยจากกล้อง 4 ตัว แสดงภาพผ่านหน้าจอขนาด 8 นิ้ว ในรูปแบบ 360 องศา ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถมองเห็นภาพรอบตัวรถได้อย่างรอบทิศทาง เบาะนั่งแถวที่ 2 แบบ VIP พร้อมพนักพิงและที่พับขาสามารถที่จะปรับได้ด้วยไฟฟ้า ติดตั้งพวงมาลัยแบบปรับระดับสูง-ต่ำ เข้า-ออกได้ โดยได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 16 วาล์ว CRDi พร้อมเทอร์โบแปรผัน VGT และอินเตอร์คูลเลอร์ ขนาด 2.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 175 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 441 นิวตัน-เมตร จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด พร้อม Sequential shift 

    Hyundai Grand Starex

    รถตู้มือสองราคาถูก รถบ้าน Hyundai Grand Starex รุ่น 2.5 Deluxe 2019 ราคาเริ่มต้นประมาณ 1,000,000 บาท ถึง 1,200,000 บาท

    สำหรับผู้ที่มีความสนใจรถตู้มือสองราคาถูก รถบ้าน สภาพดี เจ้าของขายเอง มีความน่าเชื่อถือ เลือกรถตู้มือสองรุ่นที่ตอบโจทย์การใช้งานของคุณได้อย่างง่ายดาย ค้นหารถตู้โตโยต้ามือสอง เปรียบเทียบราคารถตู้มือสอง ตรวจเช็คราคารถตู้มือสองทุกรุ่นแค่ทัช Chobrod.com ตลาดรถยนต์ออนไลน์ชั้นนำที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศไทย 

     



Free Website Created & Hosted with Website.com Website Builder

Create Yours

Create Free Website Now

Stunning Website Templates. Free Domain.
Create a free website with website.com website builder. Start My Website